โตโน่ ภาคิน สั่งทำเครื่องฆ่าเชื้อโรคหน้ากากอนามัย 10 เครื่อง ให้รพ. 

โตโน่ ภาคิน สั่งทำเครื่องฆ่าเชื้อโรคหน้ากากอนามัย 10 เครื่อง ให้รพ. 

จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทางประเทศไทยก็กำลังได้รับผลกระทบอยู่ในขณะนี้ เหล่าแพทย์ พยาบาลต่างทำงานอย่างหนัก งานนี้หลายๆ คนต่างก็ช่วยกันบริจาคเงิน เพื่อสมทบทุนช่วยเหลือ เหล่าดาราคนในวงการบันเทิงต่างก็ช่วยกันอย่างเต็มที่

ทางด้านนักแสดงและนักร้องชื่อดัง โตโน่ ภาคิน 

ก็ได้ช่วยเหลือโดยการสั่งทำเครื่องฆ่าเชื้อโรคจากหน้ากากอนามัย จำนวน 10 เครื่อง ที่สามารถนำหน้ากากอนามัยกลับมาใช้ซ้ำได้ถึง 8 ครั้ง มาบริจาคให้กับทางโรงพยาบาล เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย

โดยโตโน่ ได้โพสต์ภาพข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า “สวัสดีครับคนไทยทุกคน…เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย ผมได้สั่งทำ เครื่องฆ่าเชื้อโรคจากหน้ากากอนามัยได้ 100% ทำให้สามารถนำหน้ากากมาใช้ได้หลายครั้ง (ไม่เกิน 8 ครั้งนะครับ) ประมาณ 10 เครื่อง ด้วยเงินของผมเอง ผมขอทราบรายชื่อและเบอร์ติดต่อของโรงพยาบาลที่ต้องการเครื่องนี้ด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลเล็กหรือใหญ่ ผมจะส่งให้หมด… ขอที่ต้องการจริงๆ นะครับ รักและคิดถึงทุกคนนะครับ โตโน่ ภาคิน”

เจ้าตัวยังเขียนแคปชั่นอีกด้วยว่า “คุณหมอ คุณพยาบาล และคนไทยทุกคน สู้ๆนะครับ เราจะผ่านทุกอุปสรรคไปด้วยกัน”

งานเข้าอีกแล้วสำหรับดีเจฝีปากกล้า พล่ากุ้ง วรชาติ ธรรมวิจินต์ ที่เจ้าตัวมักจะมีประเด็นในเรื่องการใช้คำพูด หรือการโพสต์ในโลกโซเชียลอยู่ตลอดเวลา ล่าสุดก็มีเรื่องขึ้นมาหลังจากที่เจ้าตัวโพสต์ภาพชายหนุ่มผิวสี 2 คน และหญิงสาวร่างเล็ก 1 คน ลงอินสตาแกรม พร้อมทั้งเขียนแคปชั่นว่า “ขอ 3 คำ !!!!!” หลังจากนั้นจึงมีชาวเน็ตเข้ามาวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม เพราะเอาภาพคนอื่นมาลงโดยไม่เบลอหน้า

ต่อมานักแสดงหนุ่ม อาร์ต พศุตม์ บานแย้ม ก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ว่า “แหก ถึง หู” และ พล่ากุ้งก็ตอบกลับมาว่า “5555555 ถึงกับก้ากเลยกรู” จึงหลายเป็นประเด็นดราม่ารอบที่สอง เนื่องจากหลายคนไม่ขำด้วย

มีคนเข้ามาคอมเมนต์ว่า “ไม่โอเคเลยค่ะคุณอาร์ท”  อาร์ตก็ตอบกลับไปว่า “ไม่โอเคตรงไหน อย่าคิดเยอะ เครียดครับ” และอีกคนก็บอกว่า “ถามว่าใครเสีย คนพูดไหม แย่นะ” อาร์ต์ก็คอมเมนต์กลับว่า “คิดเยอะนะ คิดมาก กางเกงขาดนะ อย่าเครียดเยอะครับแก่หมด”

ล่าสุด ดีเจพล่ากุ้ง ก็ได้ลบภาพดังกล่าวออกจากอินสตาแกรมแล้ว แต่ก็ยังมีคนเข้าไปคอมเมนต์ต่อว่าเป็นจำนวนมาก

สื่อดังขอโทษ นุ้ย สุจิรา พาดหัวข่าวเข้าใจผิดทำชาวเน็ตรุมต่อว่า

จากกรณีที่มีสื่อบันเทิงรายหนึ่งพาดหัวข่าวว่า “คุณย่ามัลลิการ์ แม่สามี นุ้ย สุจิรา ใจป้ำทุ่มหนัก ยอมยกเงินเก็บกว่า 16 ปีทั้งหมด ให้หลาน” ซึ่งทำให้ชาวเน็ตบางคนเข้าไปรุมต่อว่าดาราสาว นุ้ย สุจิรา รวมไปถึงสามี ปอนด์ ชยพล และสมาชิกในครอบครัว จนทำให้นุ้ยออกมาโพสต์ภาพข่าวดังกล่าว และเขียนข้อความผ่านทางอินสตาแกรมด้วยความไม่พอใจ และขอให้สื่อดังกล่าวออกมาขอโทษด้วยว่า

“ทัวร์ลงแม่แต่เช้า แม่อยู่วงการนี้มาแม่เข้าใจแหละ ว่าคนทำสื่อก็ต้องหาข่าวมาลงเนอะ และเข้าใจอีกว่าต้องพาดหัวให้แรงๆ ไม่งั้นคนไม่เข้าไปดู แต่ที่ไม่เข้าใจคืออย่าดึงหลานเข้าไปเกี่ยว ลูกของนุ้ยก็เป็นลูกหลานในวงการ สื่อก็อยู่ในวงการ ไม่เห็นว่าลูกนุ้ยเป็นลูกเป็นหลานเลยเหรอ เขียนแบบนี้ใครจะไม่ด่า แถมมาด่าใต้รูปลูกของนุ้ยอีก อันนี้นุ้ยไม่เข้าใจ

แถมยังพาดพิงไปคุณแม่สามีอีก ถ้าเรื่องจริงจะไม่ว่าเลย แต่นี่ เอารูปที่ปอนด์ลงตั้งแต่ธันวาปีที่แล้ว (ตามรูปสุดท้าย) มาทำให้เป็นเรื่อง ทั้งๆ ที่ไม่ควรเป็นเรื่องแย่ๆ ควรเป็นเรื่องดีดีมากกว่า เพราะเงินจำนวนนี้ปอนด์เป็นเงินเดือนก้อนแรกของเค้าที่ทำงานด้วยกำลังของตัวเอง เค้าภูมิใจ เค้าก็เอามาให้แม่เค้า คุณแม่ก็เก็บไว้ จนวันนึงคุณแม่เห็นว่าปอนด์มีครอบครัว เงินจำนวนนี้ที่ปอนด์สร้างความภาคภูมิใจให้กับทั้งตัวเองและแม่ แม่ขอคืนให้กับครอบครัวปอนด์

และจำนวนเงินของเด็กเงินเดือนเริ่มต้นอ่ะ มันก็ไม่ได้มากมาย แต่มันมากด้วยคุณค่า แล้วจะเขียนแบบนี้เพื่อ อะไรใครทุ่ม ทุ่มเงินอะไร มีที่ไหน แล้วดันลงแบบนี้ในช่วงนี้ ในช่วงที่ทุกคนลำบาก แม่ปอนด์ก็ลำบาก ทั้งกายใจ คนเป็นเจ้าของกิจการก็ลำบาก ไหนจะต้องปิดตั้งหลายสาขา ไหนจะต้องดูแลพนักงานอีก ร้านปิด ขายของก็ไม่ได้เอากำไร เงินที่ได้ก็เพื่อเอามาเลี้ยงพนักงาน ในยามยาก ยากทั้งการทำมาหากิน ยากที่จะมีกำลังใจเดินต่อ

ทำไมไม่สร้างแรงบันดาลใจดีๆ ให้เกิดขึ้นในสังคมล่ะคะ เขียนให้คนมาด่าว่านุ้ยอวดรวย มีเงินมากมาย ในขณะที่ลำบากกันหมด ครอบครัวนุ้ยอยู่เฉยๆ ก็มีคนมาด่า มันไม่ยุติธรรมนะคะ — ไม่ควรทำแบบนี้นะคะ ไม่น่ารัก — ถ้าอยากเห็นคอมเมนต์ inbox หรือ DM มาได้นะ ส่วนตัวกับนุ้ยได้เลยนะคะ — หรือจะโทรมาก็ได้รอค่ะ แต่ควรขอโทษครอบครัวนุ้ย โดยเฉพาะคุณแม่ปอนด์นะคะ — #สื่อดีมีถมไป #ทัวร์ลงเฉย #กลัวแม่เหงาเหรอ #ปกติเป็นคนตลกนะ”

ล่าสุดทางด้านสื่อดังกล่าวก็ได้ออกมาโพสต์ขอโทษผ่านทางเฟสบุ๊กแล้วว่า “เนื่องจากโพสต์ก่อนหน้านี้สร้างความเข้าใจผิด และก่อความเสียหายให้ทางคุณนุ้ย สุจิรา และครอบครัว ทางเพจจึงได้ดำเนินการแก้ไขและต้องขออภัยมา ณ ที่นี้” และนุ้ยก็เขียนข้อความว่า “ขอบคุณนะคะ” เป็นอันว่าจบลงด้วยดี

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า